วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

สิ่งที่ต้องทำ

การตั้งค่า DNS

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับสู่ธุรกิจ GDI และโดเมน .ws ครับ และแน่นอนครับว่า เมื่อเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโดเมนเนม ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องการตั้งค่าโดเมนอย่างแน่นอน ผมจึงได้จัดลำดับเรื่องการตั้งค่า DNS เอาไว้แรกสุดเลย เป็นสิ่งที่จะต้องทำหลังจากที่คุณ สมัครเข้ามาทำธุรกิจ

DNS ย่อมาจาก "Domain Name System" หรือบางคนอาจจะเรียกว่า "Domain Name Server" ก็ได้ครับ การตั้งค่า DNS สรุปง่ายๆ ก็คือการตั้งค่าจุดหมายปลายทางของโดเมนเนมของเราว่าจะให้มันวิ่งไปที่ไหน นั่นเองครับ

การตั้งค่า DNS มีอยู่หลายวิธีด้วยกันนะครับ แต่ผมจะขอยกมาแค่ 2 วิธีให้คุณได้ทำตามกันได้ง่ายๆ ก็ขอให้เพื่อนๆ เลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง ใน 2 อย่างนี้นะครับ และสามารถเปลี่ยนไปใช้อีกแบบเมื่อไหร่ก็ได้ เปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลาครับ

  1. URL Forwarding <= (เลือก วิธีที่ 1 คลิกที่นี่)
    การตั้งค่าอย่างง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น, ไม่เคยเขียนเว็บไซต์มาก่อน หรือต้องการความรวดเร็ว
  2. Redirect (ใช้ Basic Hosting) <= (เลือก วิธีที่ 2 คลิกที่นี่)
    สำหรับ ผู้ที่ต้องการใช้พื้นที่ Hosting 100MB ที่ GDI จัดไว้ให้

โดยที่การตั้งค่าทั้ง 2 วิธีนี้จะให้ผลที่แทบจะเหมือนกันเลยทีเดียวคือ เราต้องการให้ผลลัพท์ออกมาแบบนี้ครับ

เมื่อพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ว่า www.mydomain.ws ในช่อง address แล้วกด enter ระบบจะพาไปยังหน้าเว็บภาษาไทยโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็คือ http://www.21millionaire.com/index.php?userid=xxxxxxx (ซึ่ง xxxxxxx ก็คือ usernameGDI ของเพื่อนๆ เองนะครับ)

การกรอกเลข 4 ตัว ใน PayPal

สถานะ PayPal จะมีสองสถานะ คือ Unverified กับ Verified

Unverified เป็นสถานะของสมาชิกที่ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลบัตรเครดิต คือยังไม่ได้นำ 4 ตัว (4 digits) มากรอก
สมาชิกแบบนี้ จะถูกจำกัด การรับส่งเงินสูงสุด ไว้เพียง $500 เท่านั้น

Verified เป็นสมาชิกที่ยืนยันสถานะสมบูรณ์แล้ว ก็จะสามารถรับส่งเงินได้ไม่มีจำกัด

เลข 4 ตัว (4 digits) ได้จากตอนที่ Add บัตรเครดิตลงไป เมื่อใส่เลขบัตรแล้ว ทาง PayPal ก็จะตัดเงินจำนวน $1.95 หลังจากนั้น ก็รอ 3-4 วันทำการ ก็จะเห็นรายการตัดเงินนั้น โผล่ขึ้นมาในบัญชีเงินฝากของคุณ (เงินไทยประมาณ 60-70 บาท)

เราจำเป็นต้องทราบชื่อรายการของการตัดเงินนั้น ซึ่ง ชื่อรายการ จะเป็นลักษณะดังนี้

6193PayPal--*EXPUSE

*ในตัวอย่างนี้ เลข 4 ตัว ก็คือ 6193 (ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน)


วิธีหาเลข 4 ตัว

กรณีบัตรบีเฟริส เมื่อพบรายการตัดเงินดังกล่าวแล้ว ก็โทรไปสอบถามชื่อรายการ ที่ 1333 ได้เลยครับ

กรณีบัตรเครดิต รอ ประมาณ 1 เดือน จะมี Statment ที่คุณได้รับประจำอยู่แล้ว ส่งมาที่บ้าน ก็สามารถดูใน Statement ดังกล่าวได้เลย หรือถ้าอยากนำเลขมากรอกเร็วๆ ก็ให้สอบถามกับธนาคารได้เลยครับ
กรณีบัตรเคเว็บการ์ด สามารถดูชื่อรายการได้ในอีเมลที่กสิกรส่งมาให้ หรือที่เว็บไซต์ของกสิกรได้เลยครับ (รอ 3-4 วัน)

ตัวอย่างเลข 4 ตัวที่จะเห็นในอีเมล์ที่ธนาคารกสิกรส่งมาให้ (รอ 3-4 วันถึงจะเห็น)
***แต่ละธนาคารก็จะมี Statement แตกต่างกันไป เข้าไปดูใน Statement ของของตัวเองนะครับ


การเอาตัวเลข 4 ตัว มากรอก (คอนเฟิร์มบัตร)

1. เมื่อได้เลข 4 ตัวแล้ว ก็ให้ log in เข้าไปที่ www.paypal.com ครับ แล้วคลิกที่ลิงค์ตามรูป

2. แล้วจัดการกรอกเลข 4 ตัวลงไป
** ค่อยๆกรอก และกด Submit นะครับ ถ้ากรอกแล้วไม่ผ่าน แสดงว่า เลขที่คุณนำมากรอกอาจจะไม่ใช่เลข 4 digit ที่ว่าครับ
อย่ากรอกผิดซ้ำๆ เพราะถ้าผิดเกิน 3 ครั้ง บัตรใบนี้จะใช้ไ่ม่ได้อีกเลย (เพราะ PayPal มองว่า เมื่อคุณกรอกผิด แสดงว่า คุณอาจจะไม่ใช่เจ้าของบัตรที่แท้จริง คุณถึงไม่รู้เลข 4 ตัว แล้วมากรอกมั่วๆ)

3. เมื่อคุณยืนยันเลข 4 ถูกต้องสมบรูณ์ จะมีข้อความในแถบสีเหลืองขึ้นมาว่า

You have successfully entered your 4-digit PayPal code. The $1.95 USD charge on your card will be refunded to your PayPal account. This refund may take up to 24 hours to be reflected in your PayPal balance.

และ Account Paypal ของคุณก็จะปรากฏ Status: Verified

เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ เท่านี้ คุณก็จะเป็นสมาชิก PayPal สมบูรณ์ ที่ได้ยืนยันตัวตนไปเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะถอนเงินได้ไม่จำกัดแล้วล่ะครับ

เช็คสถานะการชำระเงิน


สมาชิกทุกคน จะต้องตรวจเช็คสถานะการชำระเงินของตัวเองสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้การชำระเงินผิดพลาด เพราะทาง GDI จะไม่จ่ายค่าคอมมิิชชั่นให้เรา หากเราเองก็ยังไม่ได้ชำระค่าเช่าโดเมนให้ทาง GDI เมื่อผ่านช่วงทดลองทำ 7 วันแล้วครับ แต่การที่เราตัดเงินไม่ผ่าน อาจจะเกิดจากความไม่ตั้งใจก็ได้ ยังไงก็แล้วแต่ ผมจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาให้เพื่อนๆ ได้ตรวจสอบสถานะการชำระเงินของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจนะ ครับ

วิธีเช็คนั้นก็ง่ายมาก เราต้องเช็ค 2 อย่าง ดังนี้ครับ
1. เช็คการกำหนดการชำระเงิน (Preferred Payment) ว่าเราชำระเงินผ่านช่องทางไหน ถูกต้องดีแล้วหรือยัง
2. เช็คเงินใน PayPal หรือ บัญชีเงินฝากเรา ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับชำระเิงินหรือไม่

1. เช็คการกำหนดการชำระเงิน (Preferred Payment)

ช่องทางการชำระเงิน (preferred payment) ของแต่ละคนนั้น จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของบัตรที่ใช้ครับ ซึ่งตอนที่สมัครเข้ามา ผมก็ได้พาสมัคร แยกตามประเภทให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ ก็ให้เช็คอีกครั้งครับ ว่าของตัวเองถูกต้องดีแล้วหรือยัง

วิธีดูว่า ของตัวเอง ชำระเงินอย่างไรนะครับ ให้ log in เข้าไปที่ www.website.ws/members นะครับ แล้ว ดูที่เมนู Preferred Payment ครับ แล้วดูที่ ตัวหนังสือสีเขียว ว่าของตัวเองเป็นกรณีไหน ถูกต้องดีแล้วหรือยัง



กรณีที่ 1 Pay us with Credit Card
สำหรับคนที่ใช้บัตร เครดิต หรือ บัตรบีเฟิร์ส สมัครโดยตรงกับทาง GDI โดยไม่ได้สมัคร PayPal หรือ ไม่ได้แอดบัตรใน PayPal จะเป็นกรณีนี้ครับ คนที่สมัครเข้ามาตามขั้นตอนของ 90dayrich.com โดยปกติจะไม่เกิดกรณีนี้แน่นอนครับ

กรณีที่ 2 Pay us with PayPal
สำหรับคนที่่ได้ทำครบทุกขั้นตอนของ PayPal ก่อนการสมัคร GDI จะเป็นกรณีนี้ครับ

กรณีที่ 3 Not Selected
ในภาพ ที่ผมทำมาให้ดูนั้น คือ ไม่ได้เลือกชำระเงินเลย จะทำให้ GDI ไม่สามารถเก็บเงินคุณได้ และจะทำให้ แอคเค้าท์ของคุณโดนปิดได้นะครับ กรณีนี้ อาจจะเกิดสาเหตุจากการกำหนดชำระเงินไม่สมบูรณ์

ถ้าเป็นแบบกรณีที่ 3 นี้ ก็ให้ เลือกวิธีไหนก็ได้ตามที่เราสะดวกครับ
แล้วหลังจากนั้น ก็ทำตามขั้นตอนได้เลยครับ

2. เช็คเงินใน PayPal หรือ บัญชีเงินฝากเรา

เช็คยอดเงิน ว่ามีเพียงพอสำหรับชำระเงินหรือไม่ ให้เช็คตามนี้นะครับ

1. เช็คเงินใน PayPal เข้าไปดูใน PayPal ว่า มีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ โดย log in เข้าไปที่ www.paypal.com ครับ
ในหน้าแรกเลย ก็จะมีกรอบนี้ครับ กรณีของผมนี่ เหลือเงินอยู่ $42 USD ครับ เหลือเฟือ เพียงพอต่อการชำระเงินครับ



ตรงส่วนของ Balance นี้เป็นเงินที่มีอยู่ในบัญชี PayPal ครับ เป็นเหมือนกระเป๋าเราอีกกระเป๋านี่แหละครับ ...ทาง PayPal จะเอาเงินจาก Balance นี่แหละครับ ชำระเงินให้เราก่อนเป็นอันดับแรก
..แต่ถ้าส่วนของ Balance นี้มีไม่พอ ทาง PayPal ค่อยไปเอาเงินจากบัตรเครดิตของเราครับ ส่วนใหญ่แล้ว สมาชิกใหม่ ใน Balance ตรงนี้จะยังเป็น $0.00 USD อยู่นะครับ คือยังไม่มีเงินใน PayPal ดังนั้น จึงต้องมีเงินในบัตรให้เพียงพอครับ ตามข้อ 2 ด้านล่างนี้

2. เช็คเงินในบัญชีเงินฝาก ว่ามีเงินเหลือเพียงพอชำระเงินหรือไม่ ต้องมีเอาไว้ราวๆ 400 ครับ เผื่อๆไว้นิดหน่อย ถ้าไม่มีก็ไปฝากเงินเข้าบัญชีเอาไว้ครับ

เพียงเท่านี้ ก็แน่ใจได้แล้วล่ะครับ ว่าการชำระเงินนั้นจะไม่ผิดพลาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น